ประวัติของปินโต

ปินโตเป็นชาวโปรตุเกส เกิดในครอบครัวยากจน เขาออกเดินทางผจญภัยไปที่เมืองดิว ประเทศอินเดีย เอธิโอเปีย จีน อาณาจักรของชาวตาร์ตาร์ โคชินไสนา สยาม พะโค ญี่ปุ่น และหมู่เกาะอิยเดียตะวันออก ปัจจุบันคือน่านน้ำอินโดนิเซีย
เมื่อ เขาเดินทางกลับมาที่โปรตุเกส จึงเขียนหนังสือชื่อว่า "Peregrinacao" และถูกตีพิมพ์หบังจากที่เขาถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๕๘๓
งาน เขียนของเขาได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ ค.ศ. ๑๖๑๔ และแปลเป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ ใน ค.ศ. ๑๙๘๓ กรมศิลปากรได้เผยแผ่บันทึกของปินโตในบางส่วน ชื่อว่า " การท่องเที่ยวผจญภัยของแฟร์นังด์ มังเดซ ปินโต ค.ศ. ๑๕๓๗ - ๑๕๕๘ " แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร ต่อมา กรมศิลปากร ร่วมกับ กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตีพิมพ์ผลงานบางส่วนของเขาออกเผยแผ่อีกครั้ง ในปี ค.ศ.๑๙๘๘ โดยแปลจากหนังสือชื่อ " Thailand and Portugal : ๔๗๐ Years of Friendship"
คุณค่าทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชอาณาจักรสยามบันทึกของปินโต นับเป็นเอกสารสำคัญที่กล่าวถึง เรื่องราวที่เกี่ยวกับ ทรัพยากรการ ทหารวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อกฎหมาย และเรื่องราวในราชสำนักสยาม กลางคริสต์ศตวรรษที่๑๖และมักจะถูกอ้างอิงเสมอ เมื่อกล่าวถึงบทบาททางการทหารของชุมชนโปรตุเกส ในรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (ค.ศ. ๑๕๔๓ - ๑๕๔๖) เมื่อเกิดศึกระหว่างสยาม กับเชียงใหม่ขึ้นใน ค.ศ. ๑๕๔๗ (พ.ศ. ๒๐๙๑)
เรื่องราวในหนังสือ "Peregrinacao" สอดคล้องกับงานเขียน ของนักประวัติศาสตร์ชาวโปรตุเกสหลายคน เช่น การกล่าวถึง โดมิงกุส ดึ ไซซัส ซึ่งเคยถูกจองจำ และรับราชการเป็นนายทหารในกรุงศรีอยุธยา ก็ได้รับการยืนยันในงานเขียน ของจูอาว เดอ บารอสเช่นกัน เป็นต้น
นักเขียนทั้งหลายต่างก็พากันเห็นว่า งานนิพนธ์ของปินโตมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ แม้เนื้อหาบางตอนจะดูตื่นเต้นเร้าใจ เกินกว่าความเป็นจริง ตามทัศนะของนักประวัติศาสตร์ ข้อถกเถียงในงานของปินโตอาจจะมีอยู่ไม่น้อย แต่หลักฐานประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีคำถามและข้อสงสัยต่างๆในหลักฐานนั้น
งานของปินโตถูกตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับความแม่นยำของศักราชเพราะบันทึกของเขา เป็นเอกสารที่เขียนขึ้นจากความทรงจำ เมื่อเขาเดินทางกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในโปรตุเกสระยะหนึ่ง
ที่มา : เอกสารประกอบคำสอนวิชา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ความเป็นมาของธุรกิจที่พักแรมในต่างประเทศ ในทวีปยุโรปและอเมริกา ที่พักแรมเกิดจากความต้องการของนักเดินทางที่ไม่มีที่พักอาศัย ไม่สามารถไป-กลับได้ ในเวลาหนึ่งวัน รูปแบบที่พักพัฒนาตามความเจริญของเศรษฐกิจ ระบบขนส่งคมนาคม ยุคแรกของที่พักแรมนั้น ให้เพื่อบริการการพักผ่อนเท่านั้น ต่อมากลายเป็น Coaching Inn ที่พักตามเส้นทางถนนและได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษ ๓ ศตวรรษที่ ๑๘ รูปแบบที่พักได้เจริญเติบโตขึ้น บริเวณสถานีปลายทางและเมืองท่า มีการออกแบบให้เป็นโรงแรมรถไฟ (Railway Hotels) ช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงเมืองตากอากาศได้สะดวกมากขึ้น ที่พักแบบตากอากาศ หรือรีสอร์ท (Resort) จึงขยายตัวมากในยุโรปและอเมริกา
Hotel โรงแรม (Hotel) เป็นประเภทธุรกิจที่พักแรมในปัจจุบัน คำว่า Hotel มาจากภาษาฝรั่งเศส ดังนั้น แบบแผนการดำเนินงานการโรงแรมมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ ล้วนมีต้นแบบจากประเทศในยุโรปและอเมริกากลุ่มโรงแรมที่สำคัญ ได้แก่ Intercontinental, Holiday Inn, Marriott, Sofitel, Hilton, Conrad, Sheraton, Hyatt, Le Meridien เป็นต้นความเป็นมาของธุรกิจที่พักแรมในประเทศไทย
สมัยอยุธยา : เพื่อบริการพ่อค้า ทูต ผู้เผยแพร่ศาสนา บริเวณวัดเสาธงทองตั้งอยู่ระหว่างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี พระวิหารเดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุเหร่า ตามแผนที่ของฝรั่งเศสระบุว่า เป็นที่พักของชาวเปอร์เซียสมัยรัตนโกสินทร์ : เพื่อบริการนักเดินทางชาวตะวันตก อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวตะวันตกเข้ามาจำนวนมาก ในปี พ.ศ. ๒๔๐๖ ถนนเจริญกรุงตอนใต้จึงเป็นย่านที่พักของชาวตะวันตกในกรุงเทพฯยุคแรกกิจการโรงแรมที่สำคัญในอดีตของประเทศไทย 
๑) โอเรียนเต็ลโฮเต็ล - สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกลาสีเรือชาวต่างชาติ เป็ยเพียงอาคารไม้ชั้นเดียว ปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมมาตรฐานสากลชั้นนำแห่งหนึ่ง๒) โฮเต็ลหัวหิน - หรือ โรงแรมรถไฟหัวหิน สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดให้บริการตามแบบโฮเต็ลในยุโรป ต่อมาให้เอกชนปรับปรุง และเช่าดำเนินกิจการ เป็นโรงแรมโซฟิเทลหัวหิน ปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมมาตรฐานสากลชั้นนำแห่งหนึ่ง
๓) โฮเต็ลวังพญาไท - สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยปรับปรุงจากพระราชวังพญาไท(เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ใช้เป็นที่รับรองแขกเมือง ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้งดงาม ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญ ตั้งอยู่บริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า๔) โรงแรมรัตนโกสินทร์ - สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระอานันทมหิดล บนถนนราชดำเนินกลางใกล้สะพานผ่านพิภาพลีลา ใช้รับรองแขกเมืองสำคัญ และเป็นที่ชุมนุมของชาวสังคมยุคนั้น ต่อมาให้เอกชนเช่าดำเนินการเปลี่ยนชื่อเป็น โรงแรมรอยัล ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่
กลุ่มโรงแรมภายในประเทศไทยที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มดุสิตธานี, เซ็นทรัล, อมารี, อิมพีเรียล
พระราชบัญญัติโรงแรม ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้ระบุว่า "โรงแรม" คือ สถานที่ที่พัก จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทางธุรกิจ ให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทาง โดยมีค่าตอบแทนและไม่คิดเป็นรายเดือนปัจจัยพื้นฐานในการบริการที่พักแรม
๑. ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ำพัก
๒. ความสะอาดและสุขอนามัยในสถานที่พัก๓. ความสะดวกสบายจากบริการสิ่งอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของผู้พัก
๔. ความเป็นส่วนตัว
๕. บรรยากาศตกแต่งสวยงาม๖. ภาพลักษณ์ของกิจการ และอื่นๆประเภทที่พักแรม

แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ
๑) โรงแรม
เกณฑ์การจำแนกประเภทโรงแรม มีดังต่อไปนี้- ด้านที่ตั้ง : เป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อความสำเร็จเชิงธุรกิจ- ด้านขนาด : พิจารณาจากจำนวนห้องพักแรม
- ด้านจุดประสงค์ของผู้มาพัก : พิจารณาจากกลุ่มผู้พักส่วนใหญ่ว่มีจุดประสงค์ใด ซึ่งจะส่งต่อกิจกรรมบริการ- ด้านราคา : พิจารณาจากอัตาห้องพัก โดยเปรียบเทียบระดับราคาเฉลี่ยของกิจการภายในเขตพื้นที่ หรือประเทศ- ด้านระดับการบริการ : พิจารณาจากความครบครันในการบริการ
- ด้านการจัดระดับมาตรฐานโดยใช้สัญลักษณ์ : ระดับดาวในแต่บะโรงแรม (๑ - ๕ ดาว)
- ด้านความเป็นเจ้าของและรูปแบบการบริหาร : แบ่ง ๒ กลุ่ม คือ โรงแรมอิสระ และโรงแรมจัดการแบบกลุ่ม
๒) ที่พักนักท่องเที่ยว

- บ้านพักเยาวชน : เป็นที่พักราคาประหยัด เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเดินทางท่องเที่ยว
- ที่พักพร้อมอาหารเช้าราคาประหยัด : โดยเจ้าของบ้านแบ่งห้องพักว่างให้เช่าและจัดอาหารเช้าไว้บริการ- ที่พักริมทางหลวง : โมเต็ล (Motel) เป็นที่พักขนาดเล็กตั้งอยู่ริมทางหลวงสายหลัก
- ที่พักแบบจัดสรรเวลาพัก : คล้ายโรงแรม เป็นธุรกิจที่เติบโตและได้รับความนิยมในอเมริกา
- เกสต์เฮ้าส์ : เป็นที่พักขนาดเล็ก ราคาประหยัด มักตั้งอยู่ในชุมชน
- อาคารชุดบริการที่พักระยะยาว หรือ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ : เป็นที่พักบริการห้องชุดสำหรับผู้พักระยะยาวเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือเป็นปี เน้นบริการคล้ายโรงแรม
- ที่พักกลางแจ้ง : เป็นที่พักแบบประหยัดที่สุดในประเทศตะวันตก จัดพื้นที่กลางแจ้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมใกล้ชิดธรรมชาติ
- โฮมสเตย์ : เป็นที่พักพร้อมกิจกรรมการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะพักรวมกับเจ้าของบ้าน
แผนกงานในโรงแรมแบ่งเป็นแผนกงานสำคัญ ดังนี้
๑. แผนกงานส่วนหน้า เป็นศูนย์กลางการติดต่อระหว่างโรงแรมและแขกผู้พัก
๒. แผนกงานแม่บ้าน การจัดเตรียมห้องพักแขก ทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ ซีกรีด จัดดอกไม้
๓. แผนกอาหารและเครื่องดื่ม รับผิดชอบเรื่องอาหารและการบริการอาหาร เครื่องดื่ม
๔. แผนกขายและการตลาด รับผิดชอบวางแผนตลาดเพื่อสร้างรายได้แก่ธุรกิจ
๕. แผนกบัญชีและการเงิน ดูแลจัดทำบัญชีและควบคุมการเงินของโรงแรม
๖. แผนกทรัพยากรมนุษย์ ในบางกิจการขนาดเล็ก จะเป็นแผนกบุคคล
ประเภทห้องพัก
- Single ห้องพักสำหรับนอนคนเดียว ในต่างประเทศ จะเป็นห้องพักเตียงเดี่ยว
- Twin ห้องพักเตียงคู่แฝด ประกอบเตียงเดี่ยว ๒ เตียง ตั้งเป็นคู่วางแยกกัน
- Double ห้องพักเตียงคู่ที่เป็นเตียงเดียวขนาดใหญ่ สำหรับนอนได้ ๒ คน บางครั้งให้บริการแก่ผู้พักที่มาคนเดียว เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
- Suite ห้องชุดที่ภายในประกอบด้วยห้องตั้งแต่ ๒ ห้องขึ้นไปโดยกั้นเป็นสัดส่วนแบ่งเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น ในโรงแรมมาตรฐานชั้นดีตามแบบสากลมักมีห้องชุดที่ตกแต่งสวยงาม บริการในอัตราราคาสูง
ที่มา : เอกสารคำสอนวิชา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์